ประเพณีจองพารา ( ประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ด ) คือ
ประเพณีไทยอันเลื่องชื่อของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ดนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานประเพณีออกพรรษา
 |
ประเพณีแห่จองพาราของจังหวัดแม่ฮ่องสอน |
สำหรับคำว่า
จองพารา ในภาษาไทยใหญ่จะแปลว่า ปราสาทพระ ดังนั้นในงานประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ด จึงมีการสร้างปราสาทเพื่อคอยต้อนรับเสด็จพระพุทธเจ้าที่จะเสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์
 |
จองพารา ในภาษาไทยใหญ่จะแปลว่า ปราสาทพระ |
ประเพณีปอนเหลินสิบเอ็ดจัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11 โดยก่อนวันงานจะมีการจัดงาน
ประเพณีแบบไทยๆขึ้นเรียกว่างานตลาดนัดออกพรรษ มีการนำสินค้าต่างๆมาวางขาย เช่น อาหาร ขนม ดอกไม้ และเครื่องไทยทานต่างๆมาวางขาย ชาวบ้านก็จะซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆเหล่านี้ในการเตรีมการสร้าง
จองพารา ซึ่งมีลักษณะเป็นปราสาทจำลองที่ทำมาจาก โครงไม้ไผ่หรือวัสดุตามธรรมชาติต่างๆ มีการตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม จากนั้นก็จะ
ยกจองพารา ที่สร้างขึ้นมานี้มาตั้งไว้ที่หน้าบ้าน ชายคาบ้าน หรือมำไปตั้งไว้ที่วัดก็ได้
 |
การยกจองพารา ที่สร้างขึ้นมานี้มาตั้งไว้ที่หน้าบ้าน ชายคาบ้าน หรือมำไปตั้งไว้ที่วัดก็ได้ |
ในวันขึ้น 15 ค่ำ อันเป็นวันออกพรรษานั้น ตั้งแต่เช้าตรู่ประชาชนพร้อมใจกันไปทำบุญตามวัด บางวัดจัดให้มีการตักบาตรเทโว ส่วนในตอนเย็นจะนำดอกไม้ธูปเทียนและขนมข้าวต้มไปขอขมาบิดามารดาและญาติผู้ใหญ่
ก่อนย่ำรุ่งของวันแรม 1 ค่ำ จะมีพิธี ซอมต่อ คือการอุทิศเครื่องเซ่นแก่สิ่งที่ชาวไต (
ชาวไทยใหญ่ ) ถือว่ามีบุญคุณในการดำเนินชีวิต โดยนำกระทงอาหารเล็กๆ ที่จุดเทียนติดไว้ด้วยไปตั้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ แสงประทีปนับร้อยนับพันดวงตามวัด สถูป และบ้านเรือนในตอนใกล้รุ่งเป็นภาพที่งดงามน่าประทับใจมาก
 |
ชาวไทยใหญ่มีประเพณีและวัฒนธรรมที่สวยงามมากมาย |
ตลอดระยะเวลาของการจัดงานตั้งแต่แรม 1 ค่ำไปจนถึงแรม 8 ค่ำ จะมีการถวายข้าวที่จองพาราวันละครั้งและจุดเทียนหรือประทีปโคมไฟไว้ตลอดในช่วงเวลาตลอดเทศกาล จะมีการละเล่นเฉลิมฉลองหลายชนิด เช่น ฟ้อนโต เป็นการแสดงที่นิยมกันอีกชุดหนึ่ง ตัวโตนั้นเชื่อกันว่าเป็นสัตว์ป่าในหิมพานต์ชนิดหนึ่ง มีเขาคล้ายกวางและมีขนยาวคล้ายจามรี มีลักษณะร่ายรำคล้ายการเชิดสิงโตของจีน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงอื่นๆ อีกหลายชุด ได้แก่
ฟ้อนดาบ หรือที่เรียกว่า
ฟ้อนก้าแลว ฟ้อนไต เป็นการฟ้อนต้อนรับผู้มาเยือน รำหม่อง
ส่วยยี เป็นการรำออกท่าทางคล้ายพม่า และ
มองเซิง เป็นการรำประกอบเสียงกลองมองเซิง เป็นต้น ตามถนนหนทางและบ้านเรือนต่างๆ เป็นการละเล่นที่สืบเนื่องมาจากความเชื่อว่าสัตว์โลกและสัตว์หิมพานต์พากันรื่นเริงยินดีออกมาร่ายรำเป็นพุทธรูปรับเสด็จ
 |
การฟ้อนดาบ ( ฟอนก้าแลว ) ของชาวไทยใหญ่ |
ก่อนจะถึงวันแรม 8 ค่ำ จะมีพิธี
หลู่เตนเหง คือ การถวายเทียนพันเล่ม โดยแห่ต้นเทียนไปถวายที่วัด และใน
วันกอยจ้อด คือวันแรม 8 ค่ำ อันเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลออกพรรษา จะมีพิธี
ถวายไม้เกี๊ยะ โดยนำฟืนจากไม้เกี๊ยะ (สนภูเขา) มามัดรวมกันเป็นต้นสูงประมาณไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณไม่ต่ำกว่า 30 เซ็นติเมตร แล้วนำเข้าขบวนแห่ประกอบด้วยฟ้อนรูปสัตว์ต่างๆ และเครื่องประโคมไปทำพิธีจุดถวายเป็นพุทธบูชาที่ลานวัด เป็นอันสิ้นสุดเทศกาลออกพรรษาของชาวไต
ขอบคุณ :
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน