วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ด (แห่จองพารา) จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ประเพณีจองพารา ( ประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ด ) คือประเพณีไทยอันเลื่องชื่อของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ดนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานประเพณีออกพรรษา

การแห่จองพาราของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ประเพณีแห่จองพาราของจังหวัดแม่ฮ่องสอน


สำหรับคำว่า จองพารา ในภาษาไทยใหญ่จะแปลว่า ปราสาทพระ ดังนั้นในงานประเพณีปอยเหลินสิบเอ็ด จึงมีการสร้างปราสาทเพื่อคอยต้อนรับเสด็จพระพุทธเจ้าที่จะเสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์

จองพาราของชาวแม่ฮ่องสอน
จองพารา ในภาษาไทยใหญ่จะแปลว่า ปราสาทพระ
 ประเพณีปอนเหลินสิบเอ็ดจัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11 โดยก่อนวันงานจะมีการจัดงานประเพณีแบบไทยๆขึ้นเรียกว่างานตลาดนัดออกพรรษ มีการนำสินค้าต่างๆมาวางขาย เช่น อาหาร ขนม ดอกไม้ และเครื่องไทยทานต่างๆมาวางขาย ชาวบ้านก็จะซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆเหล่านี้ในการเตรีมการสร้าง จองพารา ซึ่งมีลักษณะเป็นปราสาทจำลองที่ทำมาจาก โครงไม้ไผ่หรือวัสดุตามธรรมชาติต่างๆ มีการตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม จากนั้นก็จะ ยกจองพารา ที่สร้างขึ้นมานี้มาตั้งไว้ที่หน้าบ้าน ชายคาบ้าน หรือมำไปตั้งไว้ที่วัดก็ได้

การยกจองพารา
การยกจองพารา ที่สร้างขึ้นมานี้มาตั้งไว้ที่หน้าบ้าน ชายคาบ้าน หรือมำไปตั้งไว้ที่วัดก็ได้
ในวันขึ้น 15 ค่ำ อันเป็นวันออกพรรษานั้น ตั้งแต่เช้าตรู่ประชาชนพร้อมใจกันไปทำบุญตามวัด บางวัดจัดให้มีการตักบาตรเทโว ส่วนในตอนเย็นจะนำดอกไม้ธูปเทียนและขนมข้าวต้มไปขอขมาบิดามารดาและญาติผู้ใหญ่

ก่อนย่ำรุ่งของวันแรม 1 ค่ำ จะมีพิธี ซอมต่อ คือการอุทิศเครื่องเซ่นแก่สิ่งที่ชาวไต ( ชาวไทยใหญ่ ) ถือว่ามีบุญคุณในการดำเนินชีวิต โดยนำกระทงอาหารเล็กๆ ที่จุดเทียนติดไว้ด้วยไปตั้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ แสงประทีปนับร้อยนับพันดวงตามวัด สถูป และบ้านเรือนในตอนใกล้รุ่งเป็นภาพที่งดงามน่าประทับใจมาก

ชาวไทยใหญ่หรือชาวไต
ชาวไทยใหญ่มีประเพณีและวัฒนธรรมที่สวยงามมากมาย
 ตลอดระยะเวลาของการจัดงานตั้งแต่แรม 1 ค่ำไปจนถึงแรม 8 ค่ำ จะมีการถวายข้าวที่จองพาราวันละครั้งและจุดเทียนหรือประทีปโคมไฟไว้ตลอดในช่วงเวลาตลอดเทศกาล จะมีการละเล่นเฉลิมฉลองหลายชนิด เช่น ฟ้อนโต เป็นการแสดงที่นิยมกันอีกชุดหนึ่ง ตัวโตนั้นเชื่อกันว่าเป็นสัตว์ป่าในหิมพานต์ชนิดหนึ่ง มีเขาคล้ายกวางและมีขนยาวคล้ายจามรี มีลักษณะร่ายรำคล้ายการเชิดสิงโตของจีน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงอื่นๆ อีกหลายชุด ได้แก่ ฟ้อนดาบ หรือที่เรียกว่า ฟ้อนก้าแลว ฟ้อนไต เป็นการฟ้อนต้อนรับผู้มาเยือน รำหม่อง ส่วยยี เป็นการรำออกท่าทางคล้ายพม่า และ มองเซิง เป็นการรำประกอบเสียงกลองมองเซิง เป็นต้น ตามถนนหนทางและบ้านเรือนต่างๆ เป็นการละเล่นที่สืบเนื่องมาจากความเชื่อว่าสัตว์โลกและสัตว์หิมพานต์พากันรื่นเริงยินดีออกมาร่ายรำเป็นพุทธรูปรับเสด็จ

การฟ้อนดาบ ( ฟอนก้าแลว ) ของชาวไทยใหญ่
ก่อนจะถึงวันแรม 8 ค่ำ จะมีพิธี หลู่เตนเหง คือ การถวายเทียนพันเล่ม โดยแห่ต้นเทียนไปถวายที่วัด และใน วันกอยจ้อด คือวันแรม 8 ค่ำ อันเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลออกพรรษา จะมีพิธี ถวายไม้เกี๊ยะ โดยนำฟืนจากไม้เกี๊ยะ (สนภูเขา) มามัดรวมกันเป็นต้นสูงประมาณไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณไม่ต่ำกว่า 30 เซ็นติเมตร แล้วนำเข้าขบวนแห่ประกอบด้วยฟ้อนรูปสัตว์ต่างๆ และเครื่องประโคมไปทำพิธีจุดถวายเป็นพุทธบูชาที่ลานวัด เป็นอันสิ้นสุดเทศกาลออกพรรษาของชาวไต

ขอบคุณ : สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น